แอ พ Smart Switch
จัดช่องว่างระหว่างคำและบรรทัดใน cover letter ให้เป็นระเบียบและอ่านง่าย ใช้ bullet point ในจุดที่อยากดึงความสนใจที่สุด โดยเนื้อหาในแต่ละ bullet ต้องสั้น กระชับ ลงท้าย cover letter ด้วยประโยค เช่น "I look forward to speaking with you and discussing how I can assist you in kicking some great goals" ที่แสดงว่าคุณอยากเข้ารับการสัมภาษณ์งานจริงๆ และอย่าลืม! อ่านทวน cover letter ทั้งหมดเพื่อเช็กความถูกต้องอีกครั้งก่อนส่ง เพียงเท่านี้คุณก็สามารถเขียน cover letter ได้อย่างน่าสนใจแล้ว แต่อย่าลืมว่าสิ่งที่คุณเขียนต้องเป็นความจริงและต้องแสดงให้เห็นว่าคุณมุ่งมั่นอยากทำงานนั้นจริงๆ
ส่วนขึ้นต้นจดหมาย (Salutation) ในส่วนนี้ ผู้สมัครต้องกำหนดเจาะจงลงไปว่า จะส่งถึงใคร ตำแหน่งอะไร หากทราบชื่อของผู้ที่ต้องการจะส่งถึง ควรระบุชื่อลงไปจดหมายด้วย เพราะจะเป็นการสร้างความประทับใจในขั้นแรกได้อย่างง่ายดาย หากไม่ทราบอาจโทรศัพท์สอบถามกับทางบริษัทนั้น ๆ ดูก็ได้ แต่ในกรณีที่บริษัทประกาศรับสมัครงานอย่างเด่นชัด ก็สามารถระบุถึง ผู้จัดการฝ่ายบุคคล หรือ Human Resource Manager ได้เช่นกัน 2. ส่วนแนะนำ (Introduction) เนื้อหาส่วนนี้ ควรอยู่ในรูปแบบสรุปย่อสั้น ๆ เพื่อบอกถึงตำแหน่งงานที่คุณสนใจ รวมถึงระบุที่มาการได้ข้อมูลของตำแหน่งงานดังกล่าวจากแหล่งใด ในวันที่เท่าไหร่ ในกรณีที่มีบุคคลให้การแนะนำในตำแหน่งดังกล่าว คุณก็ควรระบุชื่อบุคคลดังกล่าวอย่างเด่นชัดลงไปด้วย 3. ส่วนเนื้อหาหลัก (Body) ถือเป็นส่วนสำคัญมาก ที่จะต้องเขียนอธิบายให้บริษัทเห็นถึงคุณสมบัติของผู้สมัครที่เหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้น ๆ รวมถึงทักษะ ความรู้ และประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสายงานดังกล่าวโดยตรง ทั้งนี้ ควรระลึกไว้เสมอว่า อย่าเขียนข้อความซ้ำกับในประวัติย่อจาก Resume โดยเด็ดขาด 4.
Create a jobsDB profile Increase your chances of getting hired. Update your jobsDB profile เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ กระตุ้นตัวเองให้คิดบวกเสมอขณะหางาน เทคนิคง่าย ๆ จดหมายสมัครงาน