แอ พ Smart Switch
0 ก่อน Samsung จะปล่อยอัปเดต Android 9 และ Android 10 ให้ในภายหลัง ปัจจุบัน อ้างอิงตามแผนอัปเดตซอฟต์แวร์ของ Samsung ตัว Galaxy S9 และ S9+ จะได้รับอัปเดตทุกๆ 3 เดือนครั้ง และคาดว่าต่อไปน่าจะถูกดาวน์เกรดลงเป็นอัปเดตทุกๆ ครึ่งปีแทน SOURCE: SamMobile
1 บนพื้นฐาน Android 12 ความทนทาน: ทนน้ำและฝุ่น IP68 ขนาด: 75. 8 x 157. 4 x 7. น้ำหนัก: 196 กรัม สเปค Samsung Galaxy S22 Ultra จอภาพ: Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6. 8 นิ้ว – ความละเอียด QHD+ – อัตรารีเฟรช 1 – 120Hz – อัตราตอบสนองการสัมผัส 240Hz ชิป: Snapdragon 8 Gen 1 หน่วยความจำ: RAM 8 + 128GB; RAM 12 + 256GB / 512GB / 1TB กล้องหลัง: – กล้องหลัก 108MP, รูรับแสง f /1. 4, ซูมออปติคัล 3 เท่า – กล้องเทเลโฟโต 10MP, รูรับแสง f /4. 2 – NFC – UWB พอร์ต: USB Type-C แบตเตอรี่ 5000mAh – รองรับชาร์จไว 45W – รองรับชาร์จไร้สาย 15W ระบบปฏิบัติการ: One UI 4. 1 บนพื้นฐาน Android 12 ความทนทาน: ทนน้ำและฝุ่น IP68 ขนาด: 77. 9 x 163. 3 x 8. 9 มม. น้ำหนัก: 229 กรัม ราคาและการวางจำหน่าย Galaxy S22 ทั้ง 3 รุ่น Galaxy S22 สตอเรจ 128GB: ราคา 29, 900 บาท สตอเรจ 256GB: ราคา 31, 900 บาท Galaxy S22+ สตอเรจ 128GB: ราคา 34, 900บาท สตอเรจ 256GB: ราคา 36, 900 บาท Galaxy S22 Ultra สตอเรจ 128GB: ราคา 39, 900 บาท สตอเรจ 256GB: ราคา 43, 900 บาท สตอเรจ 512GB: ราคา 47, 900 บาท
8 มิลลิวินาทีเท่านั้น ซึ่งเป็นผลมากจากแผงวงจรภายในตัวใหม่ ประกอบกับใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการคาดเดาตำแหน่งล่วงหน้าหลายจุด สำหรับฟีเจอร์ของ S Pen นั้นถอดแบบมาจากซีรีส์ Galaxy Note ทุกประการ ไล่ตั้งแต่การขีด ๆ เขียน ๆ และฟีเจอร์พื้นฐานของ Air Command ตลอดจนถึง Air Action วาดปากกาบนอากาศเพื่อเข้าสู่ทางลัดต่าง ๆ ตามที่กำหนด หรือใช้งานปากกาเป็นรีโมตควบคุมแอปกล้องถ่ายรูปจากระยะไกล ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่หลายคนชอบกันมาก จอภาพ Dynamic AMOLED 2X เสริม Vision Booster สว่างไม่กลัวแดด หน้าจอของ Galaxy S22 และ S22+ มากับพาเนล Dynamic AMOLED 2X ความละเอียด FHD+ ขนาด 6. 1 และ 6. 7 นิ้วตามลำดับ อัตรารีเฟรชแบบแปรผัน วิ่งได้ตั้งแต่ 10 ถึง 120Hz โดยเป็นการปรับอัตโนมัติเพื่อประหยัดพลังงานและลดความเบลอของภาพกรณีที่เฟรมเรตไม่สัมพันธ์กัน กล้องเซลฟีเป็นแบบเจาะรู ความละเอียด 10MP ส่วน Galaxy S22 Ultra มีหน้าจอ 6.
1 นิ้ว – ความละเอียด FHD+ – อัตรารีเฟรช 48-120Hz – อัตราตอบสนองการสัมผัส 240Hz ชิป: Snapdragon 8 Gen 1 หน่วยความจำ: RAM 8 + 128GB / 256GB กล้องหลัง: – กล้องหลัก 50MP, รูรับแสง f /1. 8, ระบบโฟกัส Dual Pixel – กล้องอัลตราไวด์ 12MP, รูรับแสง f /2. 2, มุมกว้าง 120 องศา – กล้องเทเลโฟโต 10MP, รูรับแสง f /2. 4, ซูมออปติคัล 3 เท่า, ระบบกันสั่น OIS กล้องหน้า: 10MP, รูรับแสง f /2. 2 เครือข่าย: 5G การเชื่อมต่อ: – Wi-Fi 6 – Bluetooth 5. 2 – NFC พอร์ต: USB Type-C แบตเตอรี่ 3700mAh – รองรับชาร์จไว 25W – รองรับชาร์จไร้สาย 15W ระบบปฏิบัติการ: One UI 4. 1 บนพื้นฐาน Android 12 ความทนทาน: ทนน้ำและฝุ่น IP68 ขนาด: 70. 6 x 146 x 7. 6 มม. น้ำหนัก: 168 กรัม สเปค Samsung Galaxy S22+ จอภาพ: Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6. 6 นิ้ว – ความละเอียด FHD+ – อัตรารีเฟรช 48 – 120Hz – อัตราตอบสนองการสัมผัส 240Hz ชิป: Snapdragon 8 Gen 1 หน่วยความจำ: RAM 8 + 128GB / 256GB กล้องหลัง: – กล้องหลัก 50MP, รูรับแสง f /1. 2 เครือข่าย: 5G การเชื่อมต่อ: – Wi-Fi 6E – Bluetooth 5. 2 – NFC – UWB พอร์ต: USB Type-C แบตเตอรี่ 4500mAh – รองรับชาร์จไว 45W – รองรับชาร์จไร้สาย 15W ระบบปฏิบัติการ: One UI 4.
8, ระบบโฟกัส Dual Pixel กล้องอัลตราไวด์ 12MP, รูรับแสง f/2. 2, มุมกว้าง 120 องศา กล้องเทเลโฟโต 10MP, รูรับแสง f/2. 4, ซูมออปติคัล 3 เท่า, ระบบกันสั่น OIS – รองรับ Space Zoom สูงสุด 30 เท่า กล้องหน้า: 10MP, รูรับแสง f /2. 2 เลนส์กระจก Super clear เพิ่มการรับแสง พร้อม OIS ที่กันสั่นได้มากกว่าเดิม ทางด้าน Galaxy S22 Ultra พี่ใหญ่ มากับกล้องหลัก 108MP และเพิ่มกล้องเทเลโฟโตเข้ามาอีก 1 ตัว รวมแล้วมีกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว ขยายขอบเขตการซูมออปติคัลเพิ่มเป็น 10 เท่า รองรับ Space Zoom แบบไฮบริดสูงสุด 100 เท่า โดยมีเทคโนโลยี AI Super Resolution เข้ามาช่วยในเรื่องของความคมชัด และอัปเกรดความละเอียดกล้องเซลฟี่เป็น 40MP กล้องหลัก 108MP, รูรับแสง f/1. 4, ซูมออปติคัล 3 เท่า กล้องเทเลโฟโต 10MP, รูรับแสง f/4. 9, ซูมออปติคัล 10 เท่า – รองรับ Space Zoom สูงสุด 100 เท่า กล้องหน้า: 40MP, รูรับแสง f /2.
1 นิ้ว ซึ่งถือเป็นไซส์ที่กำลังพอดี สำหรับคนชอบมือถือไซส์เล็ก ใช้งานมือเดียวสบายๆ ในขณะที่ S22+ นั้นอาจจะมากับขนาดหน้าจอ 6.