แอ พ Smart Switch
invalidate, repeal, abolish, cancel annulment (n) การประกาศว่าเป็น โมฆะ, Syn. invalidation, nullification, cancellation defeasance (n) การยกเลิก, See also: การทำให้เป็นโมฆะ, การเพิกเฉย defeasible (adj) ซึ่งยกเลิก, See also: ซึ่งเพิกถอน, ซึ่งทำให้เป็นโมฆะ null and void (idm) โมฆะ, See also: ไม่มีผลบังคับ invalid (adj) เป็น โมฆะ, See also: ไม่มีผลบังคับใช้, ใช้ไม่ได้, Syn. null and void, void, inoperative, Ant. valid invalidate (vt) ทำให้เป็น โมฆะ, See also: ทำให้ใช้ไม่ได้, Syn. nullify, annul, undo, Ant. validate negate (vt) ลบล้าง, See also: ไม่มีผล, เป็นโมฆะ, ทำให้ใช้ไม่ได้, Syn. abolish, nullify null and void (idm) ไม่มีผลตามกฎหมาย, See also: เป็นโมฆะ nullification (n) การไม่มีผลบังคับ, See also: การเป็นโมฆะ, Syn. negation, revocation, voiding, Ant. confirmation nullify (vt) ทำให้ไม่มีค่า, See also: ทำให้ไร้ผล, ทำให้โมฆะ, Syn. annul, invalidate vacate (vt) ยกเลิก (ทางกฎหมาย), See also: ทำให้ไม่มีผลตามกฎหมาย, ทำให้โมฆะ, Syn. annul, invalidate, void vitiable (adj) ซึ่งเป็น โมฆะ, See also: ซึ่งถูกทำให้เสีย vitiate (vt) ทำให้เป็น โมฆะ, Syn.
โมฆะกรรม ต่างกับ โมฆียะกรรม อย่างไร โมฆะ หมายถึง นิติกรรมใดๆที่ทำนั้นเป็นอัน เสียเปล่า ตั้งแต่ต้น ผลก็คือ เสมือนว่าไม่เคยมีการทำนิติกรรมนั้นมาก่อน(นิติกรรม=สัญญาต่างๆ) โมฆียะ หมายถึง การไม่สมบูรณ์ของนิติกรรม ต่างๆ โมฆียะนี้ให้ให้ผลสองทางคือ ยอมรับนิติกรรมนั้น หรือ ปฏิเสธนิติกรรมนั้น ๑. ยอมรับนิติกรรม ก็คือสัญญาต่างๆที่เป็นโมฆียะ และเรายอมรับหรือตกลงหรือยืนยังที่จะยังคงทำนิติกรรมนั้นต่อไป ๒.
เป็นการนำเหตุการในอนาคตที่แน่นอนมากำหนดความสิ้นผล ของนิติกรรม ค. และ ข ง. ไม่มีข้อใดถูก
นิติกรรมสองฝ่าย (นิติกรรมหลายฝ่าย) ได้แก่ นิติกรรมซึ่งเกิดขึ้น โดยการแสดงเจตนาของบุคคลตั้งแต่สองฝ่ายขึ้นไป และทุกฝ่ายต่าง ตกลงเป็นข้อยินยอมระหว่างกัน กล่าวคือฝ่ายหนึ่งแสดงเจตนาเป็นคำเสนอแล้วอีกฝ่ายหนึ่งแสดงเจตนาทำเป็นคำสนอง เมื่อคำเสนอและคำสนองถูกต้องตรงกันจึงเกิดมีนิติกรรมสองฝ่ายขึ้น หรือเรียกกันว่าสัญญา เช่น สัญญาซื้อขาย สัญญากู้ยืมเงิน สัญญาแลกเปลี่ยน สัญญาขายฝาก สัญญาว่าจ้าง จำนำ จำนอง เป็นต้น หลักในการทำนิติกรรม 1. นิติกรรมใดเป็นสิ่งต้องห้ามโดยกฎหมาย เป็นการขัดต่อความสงบของประชาชนถือว่าเป็น "โมฆะ" 2. นิติกรรมที่ตกลง สามารถตกลงกันอย่างไรก็ได้และมีผลบังคับใช้ มาตรา ที่ 150 การใดมีวัตถุเป็นการต้องห้าม เป็นการขัดความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนถือว่าเป็น "โมฆะ" ข้อสังเกต คือ ตามมาตรา 150 และ มาตรา 151 แม้จะเห็นคำว่าความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนเหมือนกัน แต่มีความหมายโดยนัย โดยมาตรา 150 นิติกรรมไปขัดต่อความสงบเรียบร้อยฯเป็นเรื่องที่กฎหมายไม่ได้บัญญัติ แต่มาตรา 151 เป็นเรื่องที่กฎหมายบัญญัติ 3. การทำนิติกรรมต้องทำให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด 4. การทำนิติกรรมต้องเป็นไปตามที่บัญญัติของกฎหมายเรื่องความสามารถในการทำนิติกรรมบุคคลด้วย "กฎหมายว่าด้วย ความสามารถของบุคคลตามามาตรา 153 คือ บุคคลธรรมดาที่ในการทำนิติกรรมต่างๆ จะทำได้เมื่อบรรลุนิติภาวะ บุคคลธรรมดาอาจจะเป็นบุคคลหย่อนความสามารถ(ผู้ไร้ความสามารถ)คนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ คนวิกลจริต บุคคลเหล่านี้กฎหมายกำหนดสิทธิ ถ้าไม่ปฎิบัติตามที่กฎหมายกำหนด จะถือว่าเป็น "โมฆียะ" 1.